วันที่นำเข้าข้อมูล 25 ต.ค. 2556
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 4 พ.ย. 2565
สวัสดีครับ ชุมชนชาวไทยในตุรกี จอร์เจีย เติร์กเมนิสถาน มาซิโดเนีย และอาเซอร์ไบจาน
ผมได้เดินทางตรงจากบราซิลมารับตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา แล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยก่อนหน้านี้ผมดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
ไทยและตุรกีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาเป็นเวลากว่า ๕๕ ปี แล้ว ซึ่งในปี ๒๕๕๖ นี้ ถือเป็นปีที่สำคัญปีหนึ่งในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างกัน เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีได้เสด็จเยือนนครอิสตันบูล เมื่อ ๑๓ – ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ เพื่อทรงบรรยายในการประชุมเคมีโลกครั้งที่ ๔๔ ของสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศ (International Union of Pure and Applied Chemistry (IUPAC) World Chemistry Congress) ตามคำกราบทูลเชิญของผู้จัดการประชุมฯ ซึ่งในโอกาสดังกล่าวได้พระราชทานพระวโรกาสให้พสกนิกรชาวไทยในตุรกีได้เฝ้าทูลละอองพระบาท รวมทั้งมีการเยือนตุรกีอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งการเยือนดังกล่าวมีส่วนอย่างสำคัญยิ่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างไทยและตุรกีทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังนำไปสู่ความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ซึ่งจะยังประโยชน์ต่อรัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศ อาทิ การส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจทวิภาคีเพื่อเพิ่มปริมาณการค้าการลงทุนระหว่างกัน การส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในสาขาที่ไทยและตุรกีมีความสนใจร่วมกัน เช่น การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การศึกษาและวิชาการ ความมั่นคง และความร่วมมือในกรอบพหุภาคี ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวข้างต้นนี้จะได้รับการผลักดันและขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมโดยกลไกภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนและการพบหารือกันในกรอบแผนปฏิบัติการร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลตุรกี
สำหรับประเทศในเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งประกอบด้วยจอร์เจีย เติร์กเมนิสถาน มาซิโดเนีย และอาเซอร์ไบจาน นั้น ความสัมพันธ์ระหว่างกันก็พัฒนาขึ้นไปตามลำดับ โดยนอกจากสถานเอกอัครราชทูตฯ จะดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในมิติการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการกงสุล ในประเทศเหล่านี้มากขึ้นแล้ว ยังมีการเยือนระหว่างฝ่ายไทยและฝ่ายประเทศเขตอาณามากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถานจะเดินทางเยือนประเทศไทยตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบระยะเวลา ๒๑ ปี นับจากสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและเติร์กเมนิสถาน
ผมมีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อและเดินหน้านโยบายต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและตุรกี รวมทั้งกับประเทศในเขตอาณาในทุก ๆ มิติ โดยในมิติทางการเมืองจะผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง เพื่อนำไปสู่การริเริ่มความร่วมมือใหม่ ๆ และการต่อยอดความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว ในมิติทางเศรษฐกิจจะส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันผ่านกลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่ และความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนไทยที่เกี่ยวข้อง ในมิติทางสังคมและวัฒนธรรมจะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของสาธารณชนตุรกีและสาธารณชนในประเทศเขตอาณาให้มากยิ่งขึ้น สำหรับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยในตุรกี จอร์เจีย เติร์กเมนิสถาน มาซิโดเนีย และอาเซอร์ไบจาน นั้น เราจะยังคงให้ความสำคัญกับการดูแล ส่งเสริม และคุ้มครองผลประโยชน์ของท่านดังเช่นที่เคยได้ดำเนินการมาโดยตลอด คนไทยในต่างประเทศต่างเปรียบเสมือนตัวแทนของประเทศและพี่น้องชาวไทยในบ้านเกิดของเรา เพราะชาวต่างประเทศที่พบปะกับคนไทยที่ใดก็ตามก็จะสรุปว่านั่นคือภาพลักษณ์ของประเทศไทยและภาพลักษณ์ของคนไทยโดยรวม ผมจึงขอความร่วมมือพวกเราชาวไทยทุกคนได้ร่วมกันสร้างและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและเกียรติภูมิของประเทศไทยของเรา เพื่อให้เขาชอบไทย อยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับไทยมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน อยากจะเที่ยวไทย ซื้อของไทย ใช้บริการของไทย ฯลฯ ซึ่งจะยังประโยชน์ให้แก่ประชาชนคนไทยและประเทศชาติอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรา
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานเอกอัครราชทูตฯ จะได้รับความร่วมมือจากทุกท่านเป็นอย่างดีดังที่เคยเป็นมา ทั้งนี้ ผมและข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ ทุกคนยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของทุกท่านผ่านทางช่องทางในการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ รวมทั้งในโอกาสใดก็ตามที่ได้พบกัน
ด้วยไมตรีจิต
ธฤต จรุงวัฒน์
เอกอัครราชทูต
เวลาทำการให้บริการด้านการกงสุลต่าง ๆ
จันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 9.30 - 16.00 น. (พักกลางวัน 12.00-13.00 น.)
อังคาร พฤหัสบดี เวลา 9.30 - 12.00 น.
*** รับเฉพาะคิวนัดหมายทางออนไลน์ล่วงหน้า (ยกเว้นการรับรองเอกสาร) ***