เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2556 นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐตุรกี ซึ่งดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐมาซิโดเนียอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย ได้ยื่นสำเนาพระราชสาส์นตราตั้งและการหารือทวิภาคีกับนาย Nikola Poposki รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาซิโดเนีย ณ กระทรวงการต่างประเทศมาซิโดเนีย โดยภายหลังการยื่นสำเนาพระราชสาส์นตราตั้ง เอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเพื่อเข้าร่วมพิธียื่นพระราชสาส์นตราตั้งและการหารือข้อราชการกับ ดร. Gjorge Ivanov ประธานาธิบดีเเห่งสาธารณรัฐมาซิโดเนีย ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตรัฐกิจฯ เป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำมาซิโดเนียคนแรกนับแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อ23 มกราคม 2548

ในการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาซิโดเนีย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทั้งในมิติทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของระดับนโยบายและภาคธุรกิจเอกชนระหว่างกัน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักศักยภาพของกันและกันมากขึ้น

ภายหลังการยื่นสำเนาพระราชสาส์นตราตั้ง เอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐมาซิโดเนีย เพื่อเข้าร่วมพิธียื่นพระราชสาส์นตราตั้ง โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์มีใจความสำคัญเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์ทางการเมืองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง การส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจโดยการผลักดันการจัดทำความตกลงด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ทั้งนี้ ในฐานะเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐมาซิโดเนียคนแรกจะปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวอย่างเต็มความสามารถเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ

ประธานาธิบดี Ivanov ได้มีสุนทรพจน์ตอบเอกอัครราชทูตฯ โดยได้กล่าวถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงความยินดีแก่เอกอัครราชทูตฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำมาซิโดเนียคนแรก ซึ่งประธานาธิบดี Ivanov พร้อมที่จะสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตฯ อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เห็นว่าแม้สองประเทศจะมีที่ตั้งห่างไกลกัน แต่ก็มีความปรารถนาร่วมกันที่ส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยภายหลังยื่นพระราชสาส์นตราตั้งเอกอัครราชทูตฯ ได้หารือข้อราชการกับประธานาธิบดี Ivanov เป็นเวลา 45 นาที ในประเด็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกมิติ และได้เน้นย้ำความสำคัญของการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนระดับสูงของทั้งสองประเทศ รวมทั้งการมีความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกัน ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ และประธานาธิบดีฯ ยังได้แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับประเด็นการพัฒนาระบบการศึกษาและการบริหารประเทศที่มีลักษณะพหุสังคมด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธียื่นพระราชสาส์นตราตั้ง เอกอัครราชทูตฯ ได้พบหารือกับนาง Ljubica Nuri ตำแหน่ง High Counselor of Management Board in the Economic Chamber of Macedonia เกี่ยวกับศักยภาพทางเศรษฐกิจและลู่ทางส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและมาซิโดเนีย จากนั้นเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปยัง National and University Library “St. Kliment Ohridski” เพื่อมอบหนังสือและสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศไทยให้แก่หอสมุด เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยสำหรับนักวิชาการ นักเรียนนักศึกษา และสาธารณชนมาซิโดเนีย

เอกอัครราชทูตฯ ยังได้หารือกับผู้บริหารบริษัท MZT-EKA ซึ่งผลิตระบบและอุปกรณ์ทดสอบระบบเบรครถไฟและระบบเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ ซึ่งสนใจมีความร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังได้พบกับคุณชัยพร ไชยยะ หัวหน้าพ่อครัวร้านอาหารญี่ปุ่นที่กรุงสโคเปียด้วย โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้สอบถามสภาพความเป็นอยู่และสภาพการจ้างงาน และได้รับแจ้งว่าได้รับการดูแลจากเจ้าของกิจการเป็นอย่างดีและไม่มีปัญหาในเรื่องความเป็นอยู่ ทั้งนี้ มีคนไทยพำนักในมาซิโดเนียรวมทั้งสิ้น 6 คน ในจำนวนนี้มี 1 คน ที่เปิดกิจการร้านอาหารไทยอยู่ในเมืองพริเล็พ (Prilep) ทางตอนใต้ของกรุงสโคเปีย