ในวันที่ 31 มกราคม 2555 นางสาววิชชุลี โชติเบญจกุล และ น.ส.มัณทนา คชาไพร เลขานุการโท ในนามสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ได้พบปะคนไทยในเมืองบูร์ซา และครอบครัว และนักเรียนไทยในบูร์ซา เพื่อทำความรู้จัก และสร้างความคุ้นเคย ณ ร้านอาหาร Anadolu

สถานเอกอัครราชทูตฯ ยินดีที่ได้รับทราบว่า คนไทยและนักเรียนไทยในบูร์ซามีความเข้มแข็งสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีการให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าคนไทยและนักเรียนไทยที่เดินทางมายังบูร์ซาเป็นครั้งแรกเสมือนครอบครัวเดียวกัน และมีการพบปะสังสรรค์เพื่อแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบระหว่างกันอยู่เสมอ ซึ่งนับเป็นตัวอย่างที่ดีของชุมชนเข้มแข็งแห่งหนึ่ง

ปัจจุบัน มีคนไทยในบูรซาจำนวน 14 คน ส่วนใหญ่เป็นแม่บ้านที่แต่งงานกับชาวตุรกี และนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนสาขาเทววิทยา

บูร์ซาตั้งอยู่ห่างจากกรุงอังการาไปทางตะวันตกประมาณ 400 กิโลเมตร และห่างจากอิสตันบูลประมาณ 240 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 4 ของตุรกี รองจากอิสตันบูล อังการา และอิซเมียร์ ถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางอุตสาหกรรมชั้นนำของตุรกี มีโรงงานรถยนต์จากต่างประเทศตั้งอยู่จำนวนมาก และเป็นเมืองแห่งสิ่งทอของตุรกี ซึ่งล้วนแต่เป็นอุตสาหกรรมหลักของตุรกี

ในด้านประวัติศาสตร์ บูร์ซาเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของจักรวรรดิออตโตมัน ก่อนที่สุลต่านเมห์เหม็ดผู้พิชิตจะย้ายเมืองหลวงไปที่นครอิสตันบูลในปี 1453 หลังจากที่สุลต่านเมห์เหม็ดได้พิชิตกรุงคอนแสตนติโนเปิล เมืองหลวงแห่งโรมันตะวันออก นอกจากนี้ บูร์ซายังถือเป็นเมืองแห่งศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของตุรกีอีกด้วย เนื่องจากมีมัสยิด Ulu Cami ที่เป็นมัสยิดแห่งแรกของจักรวรรดิออตโตมัน

ขณะเดียวกัน บูร์ซายังเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง มีชื่อเสียงด้านความเขียวขจีของธรรมชาติ โดยเฉพาะที่ภูเขา Uludağ ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวตุรกีและชาวต่างชาติมักนิยมมาเดินป่าในฤดูร้อนและเล่นสกีในฤดูหนาว

--------------

น.ส.วิชชุลี โชติเบญจกุล

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา