เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2557 เวลา 14.00 น. นายธฤต จรุงวัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา เข้าพบหารือกับนาย Tarık Sönmez อธิบดีกรมการส่งออก กระทรวงเศรษฐกิจตุรกี และเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของนักธุรกิจระหว่างไทย-ตุรกี และการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างกันทุกปี เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างไทย-ตุรกี

เอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่า ตนรับพันธกิจที่จะส่งเสริมการค้า ไม่เพียงแต่การส่งออกจากไทยไปยังตุรกีเท่านั้น แต่จากตุรกีไปยังไทยด้วย เอกอัครราชทูตฯ เชื่อว่า การส่งเสริมการค้าสองทางนอกจากทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว ยังเป็นการค้าที่ยั่งยืนมากกว่าด้วย

เอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่า มีแผนที่จะจัดทำความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership Agreement) กับตุรกีภายในปีนี้ ในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจนั้น ตนประสงค์ที่จะดำเนินกิจกรรมที่สามารถที่เห็นผลจับต้องได้ เช่น กำหนดให้ภาครัฐของทั้งสองฝ่ายจัดการแลกเปลี่ยนการเยือนของนักธุรกิจระหว่างไทย-ตุรกี และการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างกันทุกปี ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี

เอกอัครราชทูตฯ ยังเสนอที่จะช่วยฝ่ายตุรกีเปิดตลาดผลไม้เมืองหนาวของตุรกีในประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพในตลาดของไทย และฝ่ายไทยก็จะนำผลไม้เมืองร้อนเข้าตลาดตุรกี สถานเอกอัครราชทูตฯ จะเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย-ตุรกีพบหารือกันเพื่อหาแนวทางลดขั้นตอนการตรวจสอบสุขอนามัยพืชต่างๆ ที่มีอยู่ระหว่างกันในปัจจุบัน

อธิบดีกรมการส่งออกได้กล่าวสนับสนุนเอกอัครราชทูตฯ สำหรับข้อเสนอในเรื่องการแลกเปลี่ยนการเยือนของนักธุรกิจและการส่งเสริมการค้าผลไม้ตุรกี และยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ อธิบดีฯ ได้แนะนำให้เอกอัครราชทูตฯ เข้าพบกับสมาคมการส่งออกตุรกี (Turkish Export Association – TIM) ซึ่งจะสามารถเสนอรายการผลไม้ส่งออกของตุรกีให้ได้

เอกอัครราชทูตฯ และอธิบดีกรมการส่งออกแสดงความยินดีที่ฝ่ายไทยและตุรกีได้เริ่มหารือเกี่ยวกับการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-ตุรกี เมื่อเดือนสิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา และเชื่อว่า จะเป็นกลไกสำคัญสำหรับภาคธุรกิจในการเพิ่มการค้าการลงทุนระหว่างกันต่อไป ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ ให้ทัศนะด้วยว่า ฝ่ายไทยกำลังเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป และในฐานะที่ตุรกีมีความตกลงสหภาพศุลกากรกับสหภาพยุโรป ประเทศไทยไม่ต้องการให้ตุรกีเสียประโยชน์จากการที่สินค้าไทยเข้ามาตีตลาดตุรกีผ่านทางสหภาพยุโรป ดังนั้น การเจรจาคู่ขนานจึงเป็นประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย

ในโอกาสเดียวกันนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้เสนอให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในอาเซียนสำหรับตุรกีด้วย เนื่องจากในปีหน้า (ค.ศ. 2015) ประเทศอาเซียน 10 ประเทศจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สินค้า บริการ เงินทุน และแรงงานในอาเซียนสามารถไหลเวียนได้อย่างเสรีมากยิ่งขึ้น

มูลค่าการค้าระหว่างไทย-ตุรกี ระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2556 อยู่ที่ 1,365.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2555 ร้อยละ 11.23 ไทยส่งออกมาตุรกี 1,062.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.40 จากปีก่อน และนำเข้า 302.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 32.38 ปัจจุบัน ไทยเป็นคู่ค้าใหญ่เป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอาเซียนของตุรกี รองจากอินโดนีเซียและเวียดนาม

*****

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา

10 มกราคม 2556