ถึงพี่น้องคนไทยในตุรกี จอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน นอร์ทมาซิโดเนีย และเติร์กเมนิสถาน
ก่อนอื่น ในโอกาสวันเทศกาลสำคัญและปีใหม่ของไทย คือ วันสงกรานต์ 13 เมษายน ศก นี้ ในนามสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ดิฉันขอส่งคำอวยพรและปรารถนาดีมาถึงพี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคและสิ่งท้าทายที่หลายท่านอาจกำลังเผชิญอยู่ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือปกปักษ์คุ้มครองท่านตลอดไป
สถานเอกอัครราชทูตฯ ตระหนักและเข้าใจดีว่า พี่น้องคนไทยหลายท่าน กำลังประสบปัญหาและความยากลำบากจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังเกิดขึ้น หลายท่านต้องห่างไกลบ้าน ห่างไกลครอบครัว ห่างไกลคนรัก หลายท่านต้องอยู่ในสถานการณ์ที่การท่องเที่ยวที่ควรจะสนุกเปี่ยมด้วยความสุขกลับกลายเป็นการต้องอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยกับวิถีชีวิต อาหารการกินและบ้านเมืองที่แตกต่าง ในขณะที่หลายท่านต้องเผชิญกับความผิดหวังเพราะสายการบินยกเลิกแล้ว/ยกเลิกอีก นอกจากนี้ หลายท่านอาจทุกข์ตรมเพราะตกงานในต่างแดนอย่างปัจจุบันทันด่วน ไม่ได้เตรียมตัว เตรียมใจไว้ เพราะผลกระทบจากมาตรการของประเทศเจ้าบ้านในการต่อสู้กับ COVID-19
ดิฉัน อยากใช้โอกาสนี้เรียนทุกท่านว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ เข้าใจและเห็นใจพวกท่านทุกคนเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศ รวมถึงมาตรการควบคุมอื่น ๆ ของทางการประเทศที่ท่านตกค้างอยู่ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นตุรกี หรือจอร์เจีย นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ เข้าใจดีว่า มาตรการของทางการไทยบางมาตรการที่ออกมาอาจทำให้ท่านไม่พอใจ เพราะสร้างความลำบากให้ท่าน เช่น การกำหนดให้คนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศต้องลงทะเบียนขอใบรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตฯ และต้องมีใบรับรองแพทย์ Fit to Fly มาตรการที่ขอร้องให้คนไทยชะลอการเดินทางกลับประเทศ/มาตรการระงับเที่ยวบินเข้าประเทศไทยไปจนถึง 18 เมษายน 2563 และล่าสุด คือ มาตรการกำหนดโควต้าว่า จำนวนคนที่เดินทางกลับจากทุกประเทฅ รวมกันต้องไม่เกิน 200 คน/วัน เพื่อให้ระบบสาธารณสุขสามารถรองรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศได้ ซึ่งอาจมีการปรับเพิ่มภายหลัง เมื่อสถานการณ์ในไทยพร้อมรับมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ดิฉันก็เชื่อเช่นเดียวกันว่า ลึก ๆ ในใจ ทุกท่านคงเข้าใจดีว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เป็นวิกฤตใหม่ที่เกิดขึ้นทั่วโลกที่ไม่มีประเทศใดเคยเผชิญมาก่อน เป็นวิกฤตที่หนักหนาสาหัส ผลกระทบรุนแรงไม่ใช่เฉพาะด้านสาธารณาสุขเท่านั้น แต่รวมถึงด้านเศรษฐกิจและด้านอื่น ๆ มาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลของหลายประเทศออกมานั้น ก็ด้วยความจำเป็น เพื่อต่อสู้และรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพและรักษาชีวิตของประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งหมายถึงความปลอดภัยของตัวท่านและครอบครัวอันเป็นที่รักที่เมืองไทยด้วย
ภาระหน้าที่ของแต่ละประเทศในการดูแลคนชาติตนทั้งภายในประเทศและคนชาติที่อยู่ในต่างประเทศทั่วโลกซึ่งประสบปัญหาในช่วงวิกฤตนี้ เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง แต่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ขอให้ท่านเชื่อมั่นได้ว่า พวกเราทุกคนกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือทุกท่านที่กำลังประสบปัญหาอยู่ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดหลายประการในการทำงาน เช่น (1) คำสั่งห้ามการเดินทางระหว่างเมือง/ระหว่างประเทศของทางการตุรกี ซึ่งทำให้เรามีข้อจำกัดในการเดินทางไปนครอิสตันบูล หรือเมืองอื่น ๆ ในตุรกี หรือเดินทางข้ามประเทศไปประเทศเขตอาณาที่เราต้องดูแลด้วย คือ จอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน นอร์ทมาซิโดเนีย และเติร์กเมนิสถาน จึงต้องใช้การติดต่อทาง Hotline /FACEBOOK ฯลฯ รวมถึงร่วมมือกับเครือข่ายที่มีอยู่ในบางเมือง เช่น กงสุลใหญ่กิติมศักดิ์ ณ นครอิสตันบูล ชมรมไทยในนครอิสตันบูล หรือเครือข่ายคนไทยในประเทศเขตอาณา
อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่า ระยะห่างจะไม่เป็นอุปสรรค เพราะสถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ท่าน (2) ข้อจำกัดเพราะคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่กระจัดกระจายในหลายที่ หลายเมือง และไม่ได้อยู่เฉพาะในตุรกี ซึ่งในกรณีหลัง การติดต่อ/การให้ความช่วยเหลือจะดำเนินการได้ยากมากขึ้น อาจต้องใช้เวลามากกว่า และ (3) ข้อจำกัดด้านงบประมาณและ/หรือกฎระเบียบราชการ ที่ทำให้ความช่วยเหลือในบางเรื่อง/บางวิธีการไม่สามารถกระทำได้ และ (4) กฎระเบียบ/ข้อบังคับของรัฐบาลประเทศเจ้าบ้านในบางเรื่องที่อาจเป็นอุปสรรค
ในชั้นต้นนี้ นอกจากจะได้ให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยบางส่วนที่ตกค้างในตุรกีและจอร์เจียบินกลับไปประเทศไทยได้ (ก่อนที่ทางการไทยจะมีคำสั่งขอให้ชะลอการเดินทางและระงับเที่ยวบินเข้าประเทศไทยถึง 18 เมษายน 2563) สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องคนไทยที่กำลังประสบความทุกข์ยากในระดับฉุกเฉินเร่งด่วนทั้งในตุรกีไปบางส่วนด้วยแล้ว รวมถึงได้ช่วยติดตามกับทางการตุรกีและจอร์เจียในเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาวีซ่าที่หลายท่านมีความกังวล ขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างดำเนินการให้ความช่วยเหลือกับท่านอื่น ๆ ที่ติดต่อขอรับความช่วยเหลือเข้ามาต่อไปเพื่อให้ทั่วถึงมากที่สุดเท่าที่สามารถจะกระทำได้
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ต้องขอขอบพระคุณนักท่องเที่ยวไทยหลายท่านที่แม้ว่าจะตกค้างในตุรกีและจอร์เจีย แต่ที่ผ่านมาก็พยายามช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด (ยกเว้นขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ เรื่องวีซ่าและคำแนะนำข้อมูลหากมีสายการบินที่จะทำการบิน) เพราะเท่ากับช่วยให้สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถทุ่มเทเวลาและทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด เพื่อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนจริง ๆ และช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ตลอดจน ขอขอบพระคุณพี่น้องคนไทยในตุรกีที่มีน้ำใจงามบางท่าน ที่ได้ยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือให้ที่พักอาศัยแก่นักท่องเที่ยวไทยที่ตกค้างบางรายตั้งแต่สนามบินอิสตันบูลระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศเมื่อ 28 มีนาคม
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอขอบพระคุณ (1) ชมรมไทยในนครอิสตันบูลที่ยินดีเป็นตัวแทนของสถานเอกอัครราชทูตฯ และช่วยสนับสนุนการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น ข้าวสาร/ของแห้ง/หน้ากากอนามัย เพื่อมอบแก่คนไทยที่เดือดร้อน ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2563 โดยสามารถดูรายละเอียดกำหนดการแจกจ่าย ที่ Facebook Page ของชมรมไทยในนครอิสตันบูล และ (2) บริษัท CP ประจำตุรกี ที่เสนอตัวร่วมนำผลิตภัณฑ์มาสมทบแจกจ่ายในครั้งนี้ด้วย สำหรับการแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือให้คนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือในจอร์เจีย นั้น ขอเรียนว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการประสานงานกับเครือข่ายในจอร์เจียเพื่อดำเนินการช่วยจัดซื้อและแจกจ่ายต่อไป มีความคืบหน้าอย่างไร จะแจ้งให้ทราบในโอกาสแรก
ท้ายที่สุดนี้ ดิฉันอยากบอกว่า ไม่มีวิกฤต หรืออุปสรรคใด แม้แต่ COVID-19 ที่จะเอาชนะพลังแห่งความสามัคคี คิดดี พูดดี ทำดี จิตใจมุ่งมั่น ไม่ท้อถอยของพวกเราทุกคน สถานเอกอัครราชทูตฯ จะไม่ทอดทิ้งพวกท่าน และจะก้าวไปกับพวกท่านทุกคนเพื่อก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปด้วยกันค่ะ
สวัสดีปีใหม่ไทย และสุขสันต์วันสงกรานต์แด่ทุกท่านค่ะ และเพื่อป้องกัน COVID.19 อย่าลืมปฏิบัติตามกฎเหล็กเพื่อหยุดเชื้อ คือ (1) เว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) (2) กักตัวที่ห้อง/บ้าน ไม่ออกไปไหน ถ้าไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้าน ต้องสวมหน้ากากอนามัย (3) ไม่เอามือจับหน้า และล้างมือบ่อยๆ (4) กินร้อน ช้อนตนเอง ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และ (5) รักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะคะ
พันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต
เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา