วันที่ 19 กันยายน 2562 - สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ร่วมกับ DEIK (Foreign Economic Relations Board of Turkey) ได้จัดงานสัมมนา Potential on Thailand-Turkey Economic Cooperation ที่โรงแรม Mövenpick โดยนางพันทิพา เอี่ยมสุธา เอกะโรหิต เอกอัครราชทูตฯ และผู้แทน DEIK คือ Mr. Hakan Bulgurlu ประธานสภาธุรกิจตุรกี-ไทย/CEO ของบริษัท Arçelik ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Koc Holding ได้กล่าวเปิดงานสัมมนา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับลู่ทางการค้าการลงทุนระหว่างไทยและตุรกี ความคืบหน้าของการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-ตุรกี ตลอดจน การเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ของภาคเอกชนตุรกี/ไทยเกี่ยวกับศักยภาพทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและตุรกี โดยมีผู้เข้าร่วมงานชาวไทยและตุรกีประมาณ 80 คน

 

ช่วงแรกเป็นการบรรยายในหัวข้อ Updates on Progress of Turkey-Thailand FTA Negotiation: Potential for Increased Economic Cooperation โดย Mr. Atilla Bastırmacı รองอธิบดีกรมความตกลงระหว่างประเทศ กระทรวงการค้าของตุรกี นายพูลศักดิ์ คุณอุดม ผู้ช่วยทูตฝ่ายการพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตฯ และหัวข้อ Investment Opportunities in Thailand โดย ดร. รัชนี วัฒนวิศิษฏ์พร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการลงทุน นครแฟรงก์เฟิร์ต และช่วงที่สองในหัวข้อ Experiences and Views from Private Sectors on Potential for Turkey-Thailand Economic Cooperation in the Areas of Trade, Investment and Beyond ผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ Mr. Hakan Bulgurlu ประธานสภาธุรกิจตุรกี-ไทย Mr. Cemil Cakar รองประธานสภาธุรกิจตุรกี-ไทย ดร. สมบัติ ธีระตระกูลชัย ประธานสภาธุรกิจไทย-ตุรกี นายปรีชา ตรีสุวรรณ ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตไทย และผู้ดำเนินรายการ Prof. Dr. A. Murat Ferman อธิการบดีมหาวิทยาลัย Beykent นครอิสตันบูล ทั้งนี้ สาระสำคัญของการสัมมนา ได้แก่ สองประเทศมีศักยภาพในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจอีกมาก การเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในระดับภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนการบรรลุความตกลงการค้าเสรีฯ จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางการค้าและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน

 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมคลินิกให้คำแนะนำด้านการค้าและการลงทุน และกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างภาคเอกชนไทยและตุรกี ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงอังการา ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว และสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตไทยที่นำพาคณะผู้ประกอบการไทยจำนวน 13 บริษัท 23 ราย มาเข้าร่วมงาน

 

การสัมมนาดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ผู้เข้าร่วมงานทั้งฝ่ายไทยและตุรกีมีความพอใจและได้รับประโยชน์ในด้านข้อมูลที่เกี่ยวข้องและการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ