สารจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ถึงพี่น้องชาวไทยมุสลิม ในโอกาสเข้าสู่เทศกาลถือศีลอด เดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1443 (พ.ศ. 2565) 1 เมษายน 2565

สารจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ถึงพี่น้องชาวไทยมุสลิม ในโอกาสเข้าสู่เทศกาลถือศีลอด เดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1443 (พ.ศ. 2565) 1 เมษายน 2565

วันที่นำเข้าข้อมูล 1 เม.ย. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 1 เม.ย. 2565

| 3,091 view

                                    สาร ของ นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง

                                              เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา

                    ในโอกาสเข้าสู่เทศกาลถือศีลอด เดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1443 (พ.ศ. 2565)

                                                     1 เมษายน 2565

                                                            *****

ขอสันติสุขจงมีแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิม และน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาชาวไทยมุสลิมในประเทศตุรกี ที่รักทุกท่าน

 

          ​ เนื่องในวาระที่กำลังจะเข้าสู่เทศกาลถือศีลอด ในเดือนรอมฎอน เดือนอันประเสริฐยิ่งของชาวมุสลิมทั่วโลก
รวมทั้งชาวมุสลิมไทยและตุรกี อันเป็นโอกาสอันดีที่ผู้มีศรัทธาทั้งหลายจะได้ตั้งใจมั่นในการประกอบกรรมดีตามหลักการ
ของศาสนา ผม ในฐานะเอกอัครราชทูตไทยคนใหม่ประจำตุรกี และในนามของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา
รวมทั้งหน่วยงานทีมประเทศไทยในตุรกี จึงขอส่งความปรารถนาดีมายังพี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกท่านและครอบครัว ตลอดจน
น้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาชาวไทยมุสลิมทุกคนในประเทศตุรกี และประเทศในเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูตฯ รวมตลอดไป
ถึงครอบครัวญาติพี่น้องของท่านในประเทศไทย ขอให้ทุกท่านประสบสันติสุข และสามารถปฏิบัติศาสนกิจตามศรัทธาของท่าน
ได้ตามที่ได้ตั้งใจไว้จนตลอดเดือนนี้ ขอให้การงานที่ดีของทุกท่านได้รับการตอบรับด้วยดี ขอให้ทุกท่านได้รับการอำนวยพร
อันประเสริฐ มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยพ้นจากโควิด-19 หรือจากการผันแปรในทางลบของสภาวการณ์ใด ๆ ขอให้ประสบ
ความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียนและการใช้ชีวิตและมีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป

          ตั้งแต่ผมได้เดินทางมารับตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการาได้ประมาณเกือบหกเดือนแล้ว ผมได้มีโอกาสพบกับกับ
พี่น้องชาวไทยที่พำนักอยู่ในตุรกี รวมทั้งน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาไทยในตุรกีอยู่บ้าง เท่าที่เวลาและสภาพเงื่อนไขต่าง ๆ จะอำนวย
แต่ก็ยังไม่ถึงกับทั่วถึงนัก และได้ตั้งใจไว้แล้วว่า เมื่อได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผมได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานพระราชสาส์น
ตราตั้งเป็นเอกอัครราชทูตไทยอย่างเป็นทางการ (เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน) และเมื่อสภาพอากาศดีขึ้น
พอจะเดินทางได้สะดวกขึ้นบ้างแล้ว ผมก็จะพยายามหาเวลาออกไปเยี่ยมเยียนและทำความรู้จักกับพี่น้องชุมชนชาวไทยในประเทศตุรกี
ให้มากขึ้นต่อไป

          นอกจากตัวผมเอง ผมเข้าใจว่า ยังมีพี่น้องชาวไทยบางท่านที่ก็อาจจะเพิ่งจะเดินทางมาทำงานหรือพำนักที่ประเทศตุรกีนี้
หรืออาจมีน้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาไทยมุสลิมหลายคนที่เพิ่งจะจากบ้านเกิดที่เมืองไทยเรามาเรียนหนังสือที่ตุรกีได้ไม่นานเช่นกัน
อาจมีบางช่วงที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ใหม่ ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ วิถีชีวิตใหม่ ๆ สังคมใหม่ วัฒนธรรมและภาษาใหม่ ในประเทศ
นี้กันอยู่บ้างพอสมควร อนึ่ง นอกจากการเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ตามปกติธรรมดาของคนที่ต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแล้ว ตั้งแต่ช่วง
สองสามปีที่แล้วก็ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่มนุษยชาติเราไม่เคยพบเคยเห็นกันมาก่อนเลย ซึ่งทำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงและความท้าทายหลายประการ และเมื่อปลายปีที่แล้วก็มีความผันผวนทางเศรษฐกิจในตุรกี เกิดภาวะเงินเฟ้อ ค่าเงิน
ลีร่าตุรกีอ่อนไหวเป็นประวัติการณ์  แม้แต่ดินฟ้าอากาศ เมื่อฤดูหนาวปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้ ก็มีความเปลี่ยนแปลงผันผวน
ผมได้ทราบมาว่าเกิดอากาศหนาวจัด หิมะตกหนักที่สุดในรอบสิบเอ็ดปี ทั้งในกรุงอังการาและในนครอิสตันบูล รวมทั้งพื้นที่อื่น ๆ
ของประเทศตุรกี จนกระทั่งมาถึงต้นปีนี้ สถานการณ์ของโลกในพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งไม่ได้ห่างไกลจากประเทศตุรกีที่เราอยู่นี้เลย
ก็ได้เข้าสู่ความไม่แน่นอนและความตึงเครียดระลอกใหม่อีก เมื่อเกิดการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งชาวโลก
รวมทั้งพวกเราที่นี่ ก็กำลังติดตามสถานการณ์ด้วยใจระทึกอยู่ด้วยกัน

          ในท่ามกลางความผันผวนเปลี่ยนแปลงทั้งหลายเหล่านี้ ผมและชาวสถานทูตไทยขอให้คำมั่นว่า พวกเราเต็มใจที่จะดูแลพี่น้อง
ชาวไทยในประเทศตุรกีทุกเชื้อชาติศาสนาอย่างเต็มกำลังความสามารถเสมอในสถานการณ์ต่าง ๆ ดังเช่นที่สถานทูตไทยที่กรุงอังการาได้
ดูแลพี่น้องชาวไทยในตุรกีในช่วงวิกฤติโควิด-19 มาแล้ว และสถานทูตไทยที่โปแลนด์และสถานทูตสถานกงสุลไทยที่อื่น ๆ  ร่วมกับ
กรมการกงสุล และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องของไทย ก็ได้ดูแลคนไทยในยูเครนและรัสเซียอยู่ และยินดีที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวนี้ของเรา
ต่อไป

          ผมเข้าใจว่า ตามแนวทางศรัทธาของพี่น้องชาวไทยมุสลิมนั้น เราควรจะถือว่าความผันผวนแปรเปลี่ยนแห่งสภาวการณ์ทั้งหลาย
นั้น มิใช่อื่น แท้จริงก็คือ บททดสอบที่ถูกส่งลงมาทดสอบ พวกเรานั่นเอง ซึ่งหากพวกเรายังคงมั่นในศรัทธา และร่วมแรงร่วมใจสมัครสมาน
สามัคคีกัน ดูแลกันและกันแล้ว เราก็คงจะสามารถผ่านพ้นการทดสอบครั้งนี้ และครั้งต่อ ๆ ไปได้ด้วยดีด้วยกัน ผมขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า
หากมีอะไรที่พวกเราชาวสถานทูตไทยที่กรุงอังการาจะสามารถช่วยเหลือ แนะนำ หรือให้บริการท่านได้ ขอโปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อมาหา
ทีมของเรา ขอให้ถือว่า สถานทูตไทยในกรุงอังการานั้นเป็นบ้านอีกแห่งหนึ่งของพวกเราคนไทยในต่างแดน ที่พร้อมและยินดีจะให้บริการ
ด้านกงสุลและด้านอื่น ๆ ตามระเบียบของทางราชการ แก่คนไทยเสมอ เพื่อให้พวกเราชาวไทยสามารถพำนักและศึกษาเล่าเรียนอยู่ใน
ประเทศตุรกีนี้ได้อย่างมีความสุขและมีสวัสดิภาพต่อไป

          อีกครั้งหนึ่ง ขอสันติสุขจงมีแก่ทุกท่านในเดือนอันประเสริฐนี้เทอญ

                                                              ************

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ