นรม.ไทย พบหารือ นรม.ตุรกี ครั้งแรก ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคให้กัน

นรม.ไทย พบหารือ นรม.ตุรกี ครั้งแรก ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคให้กัน

วันที่นำเข้าข้อมูล 15 พ.ย. 2555

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 2 พ.ย. 2565

| 1,805 view

 

สำนักข่าวไทยรายงานว่า ระหว่างการประชุม Bali Democracy Forum ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2555 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับนาย เรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐตุรกี ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตุรกีเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจเข้มแข็ง มีความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ซึ่งการที่ตุรกีเป็นศูนย์กลางทางการบิน (Aviation Hub) และแหล่งพลังงาน (Energy Corridor) และยังเป็นจุดเชื่อมโยงทวีปยุโรปกับเอเชีย เอเชียกลาง และตะวันออกกลาง ขณะที่ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยมีประตูทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงการคมนาคมภายในอาเซียนและจีน และเชื่อมไปสู่เอเชียใต้ได้ในอนาคต ทั้งสองประเทศจึงเห็นพ้องที่จะใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์เพื่อเป็นศูนย์กลาง (HUB) ในภูมิภาคของกันและกันเชื่อมต่อระหว่างอาเซียน เอเชียตะวันออก ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และยุโรป และสานต่อความสัมพันธ์

“แม้ว่าไทยและตุรกีได้ฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปี เมื่อ พ.ศ. 2551 แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันน้อยมาก จึงเสนอให้แลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง และได้ขอบคุณรัฐบาลตุรกีที่ยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวให้แก่หนังสือเดินทางของไทย ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างกันของประชาชน นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยเฉพาะความมั่นใจต่อเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่มีอัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานต่ำ และคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ร้อยละ 5.5 มีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านคมนาคมและพลังงานจำนวน 65,000 ล้านยูโร ในอีก 5 ปีข้างหน้า จึงเชิญชวนนักลงทุนตุรกีเข้าร่วมลงทุนด้วย  ส่วนความร่วมมือระหว่างกันในเวทีระหว่างประเทศ ได้ขอให้ตุรกีสนับสนุนไทยในกรอบองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) เนื่องจากตุรกีมีอิทธิพลต่อ OIC มาก โดยเลขาธิการ OIC คนปัจจุบันเป็นชาวตุรกีและดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว.- สำนักข่าวไทย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ